หลักการ 8 ประการ ในการพัฒนาการประเมินคุณภาพสถานศึกษา

1. ความสอดคล้องกัน (Coherence) ระบบการศึกษาควรที่จะพยายามร่วมมือกันเพื่อก่อให้เกิดความสมดุลและความสอดคล้องกันในกลไกต่างๆ ซึ่งได้รับการพัฒนาเพื่อตอบสนองต่ออุปสงค์และความคาดหวังของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของสถานศึกษาและระบบการทำงานของสถานศึกษาโดยรวม

2. สร้างชุมชนการเรียนรู้อย่างมืออาชีพ (Professional Learning Communities) นโยบายของการประกันคุณภาพควรสนับสนุนการชุมชนการเรียนรู้ เพื่อนำข้อมูลการประเมินคุณภาพมาใช้ให้เกิดประโยชน์แก่ผู้เรียนมากที่สุด

3. ความน่าเชื่อถือและภาระหน้าที่รับผิดชอบร่วมกัน (Trust and Shared Accountability) การเคารพซึ่งกันและกันระหว่างผู้รับผิดชอบภายในแลภายนอก เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการประเมินและพัฒนาสถานศึกษาอย่างมีประสิทธิภาพ

4. สนับสนุนนวัตกรรมความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ (Support Innovation) ผู้บริหารของสถานศึกษาและคุณครูบุคลากรควรได้รับโอกาสในการใช้ความคิดสร้างสรรค์ เพื่อพัฒนาองค์ความรู้ใหม่ๆ ควรให้น้ำหนักไปที่ข้อมูลเกี่ยวกับผลกระทบของการใช้เทคโนโลยี รวมไปถึงผลลัพภ์ที่ไม่ได้คาดหมาย

5. มีความเข้าใจและการสื่อสารร่วมกัน (Shared Understanding and Dialogue) วิธีการประเมินคุณภาพควรใช้ภาษาสื่อสารเดียวกัน และมีความเข้าใจระหว่างบุคลากรภายนอกและภายใน เกี่ยวกับเป้าหมายหลักของการประเมิน คือ การสนับสนุนพัฒนาสถานศึกษา

6. เครือข่าย (Networks) เครือข่ายระหว่างสถานศึกษาและชุมชนโดยรอบสามารถให้การสนับสนุนการทำงานร่วมกัน สร้างทุนทางปัญญาและสังคม และมีการประสานงานกันระหว่างระบบของสถานศึกษาต่างๆ

7. สร้างฐานข้อมูล (Building Capacity for Data) ควรลงทุนให้กับสมรรถนะของหน่วยงานหรือบุคลากรหลักๆในการสรัาง แปลและใ้ช้ข้อมูล

8. มีข้อมูลหลากหลายเพื่อมุมมองที่สมดุล (Different Data for Balanced View) จำเป็นต้องใช้ข้อมูลประเภทต่างๆ ทั้งเชิงปริมาณและคุณภาพ เพื่อสร้างความเข้าใจและมุมมองที่พอเหมาะสำหรับการพัฒนาโรงเรียนและผู้เรียน ข้อมูลเหล่านี้ควรที่จะสื่อสารเรื่องราวตามความเป็นจริงของสถานศึกษา และให้ข้อมูลที่จำเป็นในการพัฒนากระบวนการตัดสินใจทั้งภายในและระหว่างสถานศึกษา

ที่มา: “Quality Assurance for School Development: Guiding Principles for Policy Development on Quality Assurance in School Education. 2018.”