แนวทางสนับสนุนการอาชีวศึกษาที่ครอบคลุมทุกกลุ่มผู้เรียน
- กลุ่มงานประกันคุณภาพฯ

- 4 ธ.ค. 2562
- ยาว 1 นาที

คำนิยาม "การอาชีวศึกษาที่ครอบคลุมทุกกลุ่มผู้เรียน"
- ในแต่ละประเทศมีนิยามที่แตกต่างกันออกไป - กฎหมายที่ไม่มีประสิทธิภาพ และทรัพยากรที่ไม่เพียงพอส่งผลต่อปัญหาความเหลื่อมล้ำ - ต้องมีการจัดการสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ให้ทั่วถึงกับผู้เรียนทุกกลุ่ม
- ครูบุคลากรต้องได้รับการสนับสนุนที่เพียงพอ
- ต้องมีการประสานงานร่วมมือกันระหว่างหลายฝ่าย
- มีการแก้ไขปัญหาอย่างเป้นระบบ เพื่อช่วยเตรียมพร้อมนักเรียน นักศึกษา เข้าสู่ตลาดแรงงาน
การอาชีวศึกษาที่มีประสิทธิภาพควรครอบคลุมบุคคลหลากหลายกลุ่ม ดังนี้ บุคคลผู้พิการ หรือทุพลลภาพ ผู้ลี้ภัยสงคราม เยาวชนผู้ไม่มีที่อยู่อาศัย กลุ่มคนชนบท กลุ่มคนว่างงาน ขาดโอกาสทางการศึกษา เด็กกำพร้า ผู้ถูกคุมขัง และบุคคลที่พ้นโทษ กลุ่มคนยากจน และผู้หญิง
เนื่องจากในขณะนี้ยังไม่มีกฎหมายรองรับเกี่ยวกับการเข้าถึงการอาชีวศึกษาอย่างทั่วถึง เพราะขาดทรัพยากรที่เพียงพอสำหรับการสนับสนุนส่งเสริมการอาชีวศึกษาทีมีคุณภาพสำหรับบุคคลทุกกลุ่ม ทุกเพศ ทุกวัย จึงต้องปรับปรุงระบบการเข้าถึงให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยการปรับสภาพแวดล้อมการจัดการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับผู้เรียน เช่น การปรับปรุงอาคารเรียนให้นักเรียน นักศึกษา สามารถใช้งานได้อย่างสะดวกมากขึ้น รวมทั้งจัดการเรียนการสอนที่มุ่งพัฒนาการใช้ความคิดสร้างสรรค์ ปลูกฝังความมั่นใจในตนเอง และจำลองสถานการณ์การเรียนรู้ในโลกการทำงาน เป็นต้น
นอกจากนั้นแล้ว ครูผู้สอนจำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือสนับสนุน เพื่อให้สามารถจัดการเรียนรู้ได้ อย่างมีประสิทธิภาพ โดยครูผู้สอนทำหน้าที่เป้นตัวแปรหลักในการปลูกฝังทักษะ ความรู้ และทัศนคติที่ถูกต้อง ให้ัแก่นักเรียน นักศึกษา เพราะฉะนั้นจึงสมควรได้รับกรสนับสนุนช่วยเหลือจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอื่นๆ โอกาสเข้าร่วมพัฒนาสมรรถนะวิชาชีพ และมีคุณสมบัติต่างๆ ที่เหมาะสมแก่การจัดการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ
การประสานงานร่วมมือกันเพื่อสนับสนุนการอาชีวศึกษาที่ครอบคลุม สามารถกระทำได้โดยปลูกฝังจิตสำนึก และให้การศึกษาที่มีคุณภาพ อย่างไรก็ดี ปัญหาหลักที่พบในขณะนี้ คือ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียลังเลที่จะเข้ามามีส่วนร่วมในการผลักดันการอาชีวศึกษา หากขาดแรงจูงใจเชืงธุรกิจ และจะพิจารณาการเข้ามามีส่วนร่วมก็ต่อเมื่อโครงการมีผลกระทบต่อธุรกิจ ไม่ว่าจะในเชิงบวก หรือเชิงลบ เพราะฉะนั้นจึงต้องมีการสร้างจิตสำนึกต่อความสำคัญของการอาชีวศึกษาแบบครอบคลุม เพื่อก่อให้เกิดความพยายามในการระดมทุนและทรัพยากรที่จำเป็นต่อการส่งเสริมการอาชีวศึกษาอย่างมีคุณภาพ ยกตัวอย่างเช่น บริษัทและธุรกิจระดับนานาชาติในหลายประเทศ เริ่มว่าจ้างบุคคลทุพลลภาพ และผุู้พิการเข้าทำงาน เพื่อสร้างความเท่าเทียม
ประเด็นสุดท้าย จะต้องมีการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ เพื่อช่วยให้นักเรียน นักศึกษาสามารถปรับตัวเข้าสู่โลกการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เนื่องจากขณะนี้ มีปัญหาเกี่ยวกับบัณฑิตผู้สำเร็จการศึกษา ไม่มีคุณสมบัติ หรือคุณวุฒิไม่เพียงพอหรือเหมาะสมในโลกของการทำงาน อีกทั้งยังมีปัญหาเกี่ยวกับอาชีพที่ไม่เพียงพอ ความไม่มั่นคงของอาชีพที่มีอยู่ สืบเนื่องมาจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี และการเข้ามาแทนที่ของหุ่นยนต์ อย่างไรก็ดี การนำเทคโนโลยีเข้ามาปรับใช้อาจจะถือเป็นข้อได้เปรียบสำหรับผู้ที่มีความพิการ เพราะจะทำให้การใช้งานเครื่องมืออุปรณ์ต่างๆ มีความสะดวกสบายและเข้าถึงได้ง่ายขึ้น เช่น งานด้านการค้าปลีก งานบริการอาหาร และงานคีย์ข้อมูล เป็นต้น ส่วนปัญหา อื่น ๆ เช่น การขาดแคลนทุนทรัพย์ ขาดคำแนะนำ ผู้ให้คำปรึกษาชี้แนะ และองค์ความรู้ จะทำให้ผู้สำเร็จการศึกษาไม่สามารถหลุดออกจากกับดักทางเศรษฐกิจได้ ดังนั้นหนทางแก้ไขอย่างหนึ่ง คือ กระตุ้นให้เกิดการสื่อสารระหว่างผู้ว่าจ้างและสถาบันการศึกษา และสนับสนุนให้ผู้ใหญ่ที่สำเร็จการศึกษาไปแล้วหมั่นฝึกฝนทักษะอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้ทันต่อความเปลี่ยนแปลงของอุปสงค์ตลาดแรงงานในยุคศตวรรษที่ 21
ที่มา: Virtual Conference on Inclusive TVET: Virtual Conference Report. Unesco-Unevoc Tvet Forum. 4 Dec. 2019.



ความคิดเห็น